ยินดีต้อนรับกลับคร้าบ!
มาต่อกันของวันที่ 8 หลังจากไปที่วิหารคันดะมาแล้ว คราวนี้มาเที่ยวในอากิฮาบาระกันต่อ
มาที่ร้าน White Canvas ซึ่งอยู่ในซอย ห่างจากถนน Chuo Dori เข้าไปหน่อย ป้ายชื่อร้านเขียนว่า (ホワキャン Howakyan) เห็นตอนแรกผมก็งงไปแว่บหนึ่งว่ามาถูกที่หรือเปล่า แล้วมานึกขึ้นได้ว่าน่าจะเป็นการเขียนชื่อร้านแบบย่อ
White Canvas เป็นร้านขายสินค้าโดจินจากเซอร์เคิลต่างๆ แต่ร้านนี้จะเน้นขายสินค้าจากเกมโทโฮเป็นหลัก
โดจิน หรือ โดจินชิ มักจะหมายถึงผลงานต่างๆ ที่ทำขึ้นมาโดยกลุ่มแฟนๆ ที่ชื่นชอบการ์ตูนเรื่องนั้นๆ เช่น เรื่องแต่ง สมุดรวมรูปภาพ หรือการ์ตูนที่เป็นเนื้อหาที่ทำขึ้นเพื่อเป็นเนื้อเรื่องเสริม สำหรับหนึ่งหน่วยที่ทำโดจินชิ ไม่ว่าจะมีจำนวนกี่คนก็ตาม จะเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า เซอร์เคิล
ในร้านก็มีตู้กาชาปองอยู่เต็มไปหมด
น้องฟรานน่ารัก >w
อยากได้โปสเตอร์มาริสะ >_
ร้าน White Canvas จะมีสองชั้น ชั้นอื่นๆ จะเป็นสำนักงานของบริษัทอื่นๆ
นอกจากร้าน White Canvas แล้ว ร้านอื่นๆ เช่น ร้าน Mandarake ก็มีสินค้าโดจินขายเช่นกัน
หลังจากเดินเล่นดูของใน White Canvas แล้วก็ไปที่ตึก Don Quijote ซึ่งเป็นร้านขายของจิปาถะ แต่ที่ชั้นบนสุดของตึกนี้ ยังเป็น AKB48 Studio อยู่ด้วย ซึ่งจะมีการแสดงในวันธรรมดา หนึ่งครั้ง วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดอื่นๆ วันละสองครั้ง เนื่องจากในสตูดิโอมีขนาดจำกัด ผู้ที่อยากจะเข้าไปดู จึงต้องลงทะเบียน แล้วรอลุ้นผลการจับสลาก ถ้าโชคดีก็จะได้สิทธิในการซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมในสตูดิโอในวันนั้น
หลังจากเดินเล่นแล้วก็ได้เวลามื้อเที่ยงละ วันนี้รู้สึกอยากทานเทมปุระ งั้นก็เข้าร้านเทนยะ (てんや Tenya) โลด
เนื่องจากเป็นตอนเที่ยง ก็เลยมีพนักงานบริษัทมาทานกันเต็มร้าน ต้องรอคิวสักหน่อย …
รอประมาณ 20 ก็ถึงคิวเราละ สั่งชุดข้าว พร้อมกุ้งสองตัวดีกว่า
ซอสทาเระที่ราดอยู่บนกุ้งนี่อร่อยสุดๆ เลย =w=b
หลังอาหารเที่ยงก็ออกมานั่งย่อยอาหารเล่น ลองถ่ายรูปอากิบะสักรูป
แล้วก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมงไปเดินดูของในร้าน Animate แต่ละชั้นก็จะแยกประเภทของสินค้าไว้อย่างชัดเจน วิธีที่ผมใช้เดินดูก็เหมือนเดิม ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด แล้วก็เดินดูของลงมาเรื่อยๆ ถึงแม้ร้าน animate ก็มีอยู่ที่อิเคะบุคุโร่ด้วย แต่สินค้าบางอย่างอาจจะมีไม่เหมือนกันครับ
ตึก Sega ด้านล่างมีตู้คีบตุ๊กตาอยู่เต็มไปหมด
แวะไปที่อาคาร Radio Kaikan อีกรอบก่อนกลับ
ที่ชั้นล่างสุดของ Radio Kaikan มีร้านขายของอนิเมะที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ เป็นร้านที่เปิดให้เช่าตูู้กระจกสำหรับผู้ขายที่ต้องการขายของ ส่วนผู้ซื้อก็สามารถเข้ามาเลือกดูของได้หลากหลาย เพราะว่ามีสินค้าหลายชนิด ขึ้นอยู่กับผู้ขาย เวลาจะซื้อก็ให้จดเบอร์ตู้ เบอร์ของ จำนวน แล้วก็ราคาของแต่ละอย่าง ให้ทางร้าน เขาจะมาเปิดตู้ หยิบของ ให้เราไปจ่ายเงิน เงินที่ได้ ทางร้านก็จะแบ่งให้ผู้ขาย แต่ราคาของอาจจะแพงอยู่สักหน่อย เพราะว่าผู้ขายจะเป็นคนกำหนดราคาเอง แต่ก็ลองเดินดูหลายๆ ตู้ก่อนครับ ตู้อื่นๆ อาจจะมีของอย่างเดียวกัน แต่ราคาถูกกว่าก็ได้ อืม… ในไทยจะมีร้านแบบนี้อยู่มั้ยนะ
โอเค สองวันที่ผ่านมานี่ ได้เดินดูอากิบะไปเยอะเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้เข้าไปใน Yodobashi Akiba เลยแฮะ พรุ่งนี้ ก่อนกลับ ถ้ามีเวลาเหลือ เดี๋ยวมาแวะสักหน่อย
ตอนนี้ว่างๆ ก็กลับไปอิเคะบุคุโร่ แวะซื้อเครื่องสำอางค์ให้น้องสาวดีกว่า
เกือบทุกอย่างก็หาซื้อได้ในร้านมัตสึโมโต้ คิโยชินี่ละ
กลับมาที่โรงแรม แวะทานกาแฟสักหน่อย
สั่ง Double Chocolate แต่ทำไมได้กลิ่นของความเป็นกาแฟมาเยอะจัง – -”
หลังจากดื่มกาแฟเสร็จก็ขึ้นไปเก็บของและพักผ่อนในห้อง เป็นอันจบตอนนี้ครับ
แต่เดี๋ยวก่อน! ยังไม่จบของวันที่แปดนะ ยังจำกันได้ใช่มั้ยครับว่าผมเคยขึ้นไปที่จุดชมวิวของ Sunshine 60 มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่สภาพอากาศไม่เป็นใจ เลยมองออกไปแทบไม่เห็นอะไร… ตอนหน้าจะไปแก้มือ ขึ้นไป Sunshine 60 อีกรอบ ขอรับประกันว่าวิวของเมืองจะต้องออกมาสวยแน่นอน แล้วเจอกันครับ!
ข้อมูลเพิ่มเติม & ข้อมูลบางส่วนจาก:
เว็บของร้าน White Canvas (ภาษาญี่ปุ่น)
รวมรูปของวันที่ 8
http://s80.photobucket.com/albums/j186/panithan/2012/201206_Japan2012/20120618
Original: http://t-tan.exteen.com/20120820/126-1-27-8211-akihabara